เอ็นพีเอการบัญชี

ฝึกอย่างไรให้จิตรวมเร็ว


ฝึกอย่างไรให้จิตรวมเร็ว

“ฝึกอย่างไรให้จิตรวมได้เร็ว”

คำถาม: ฝึกอย่างไรให้จิตรวมได้เร็วครับ

พระอาจารย์: เหตุที่จะทำให้จิตรวมก็คือสตินี่เอง ถ้าต้องการให้จิตรวมอย่างรวดเร็วนี้ สติต้องมีกำลังสูงอย่างมาก งั้นต้องหมั่นเจริญสติให้มากๆ แล้วสตินี้จะทำให้จิตรวมเข้าสู่ความสงบได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว สตินี้เปรียบเหมือนกับเบรกรถยนต์ ถ้าเราต้องการที่จะหยุดรถยนต์อย่างรวดเร็วนี้เรามักจะใช้ดิสเบรกกัน ใช้เบรกธรรมดามันจะสู้ดิสเบรกไม่ได้ใช่ไหม ฉันใด สตินี้ก็เป็นเหมือนเบรกของใจนี่เอง พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า สตินี้เป็นธรรมที่สำคัญอย่างยิ่ง ยิ่งกว่าธรรมทั้งปวง เพราะขาดสติแล้วธรรมทั้งปวงก็เกิดขึ้นไม่ได้ สตินี้ทรงเปรียบเทียบเหมือนกับรอยเท้าช้างที่ครอบรอยเท้าของสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงในป่าได้หมด ไม่ว่าจะเป็นสิงโต เป็นเสือ ซึ่งอาจจะมีความร้ายกาจกว่าช้างก็ตาม แต่รอยเท้าช้างนี้ใหญ่กว่าสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง สติถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นธรรมที่สุดยอด แต่ก็เป็นธรรมที่จำเป็นที่จะต้องมี ถึงจะทำให้ธรรมที่สูงกว่าดีกว่า คือ สมาธิและปัญญาเกิดขึ้นได้ ดังนั้นจึงต้องพยายามหมั่นเจริญสติให้มากๆ

การเจริญสตินี้ก็อาจจะแบ่งเป็น ๒ ลักษณะ คือ สติแบบมืออาชีพ กับเจริญสติแบบมือสมัครเล่น เหมือนกับกีฬานี้ก็มีกีฬาสมัครเล่น กับกีฬาอาชีพ เช่นตอนนี้เขามีแข่งขันโอลิมปิก ใครที่ต้องการชิงเหรียญทองโอลิมปิกก็ต้องเป็นเหมือนกับนักกีฬาอาชีพ เพื่อจะไม่ทำอาชีพอย่างอื่น จะเอาเวลาทุ่มเทให้กับการฝึกกีฬาของตนเพียงอย่างเดียวอย่างเต็มที่ ถ้าไปทำงานอย่างอื่นด้วยแล้วมาฝึกกีฬาช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ เวลามันจะไม่พอจะไม่สามารถเข้าไปผ่านรอบคัดเลือกได้ เพื่อที่จะเข้าไปชิงเหรียญทองได้ ฉันใดการเจริญสตินี้ก็แบ่งเป็น ๒ พวกด้วยกัน พวกมือสมัครเล่น ก็คือพวกฆราวาสญาติโยม นี่ถือว่าเป็นพวกมือสมัครเล่น เพราะยังไม่สามารถที่จะเจริญสติได้ทุกวันทุกเวลา เพราะต้องแบ่งเวลาไปทำงานทำการ ไปทำกิจกรรมอะไรต่างๆ งั้นต้องรอเวลาที่ว่างจากภารกิจการงานต่างๆ ถึงจะมาสามารถเจริญสติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่ต้องการจะเป็นมืออาชีพนี่ก็ต้องเป็นนักบวชทั้งหลายนี่เอง เป็นพระเป็นแม่ชี เขาไม่มีอาชีพอย่างอื่น พระแม่ชีนี้มีอาชีพฝึกสติเท่านั้น เจริญสติเท่านั้น ดังนั้นผู้ที่จะได้ความสงบ จิตรวมได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ส่วนใหญ่มักจะเกิดกับพวกที่เป็นพวกมืออาชีพ พวกพระ พวกแม่ชี อันนี้ต้องอธิบายให้ฟังให้เข้าใจ จะได้รู้ภาพว่าเป็นอย่างไร เพราะบางทีเราพูดเรื่องมืออาชีพให้กับมือสมัครเล่น เขาก็บอกว่า โอ้ย ทำไม่ได้หรอกอย่างนี้ ใช่ ทำไม่ได้ แต่มือสมัครเล่นก็ทำได้เฉพาะช่วงเวลาที่ว่างจากภารกิจการงานได้ เช่น วันหยุด แทนที่จะเอาเวลาไปเที่ยวกัน ลองเอาเวลาไปเป็นมืออาชีพชั่วคราว ไปอยู่วัดสักวันสองวัน ไม่ทำอะไรเลย นอกจากฝึกสติ เจริญสติ อันนั้นก็อาจจะมีโอกาสได้ลิ้มรสอะไรบ้าง เล็กๆ น้อยๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มากก็ตาม พอจะเข้าใจนะ

รายการตอบปัญหาธรรม ครั้งที่ ๑๓ โดย ท่านพระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
คุณหมอวีระพันธ์ สุวรรณนามัย (Dr. V Channel) วันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๔