เอ็นพีเอการบัญชี

สติทางโลกกับสติทางธรรม


สติทางโลกกับสติทางธรรม

“สติทางโลกกับสติทางธรรมต่างกันอย่างไร”

ถาม: สติทางโลกกับสติทางธรรม ต่างกันอย่างไรคะ

พระอาจารย์: สติทางธรรมเราต้องการหยุดความคิด ไม่ให้คิดอะไร ให้รู้เฉยๆ แต่ทางโลกนี้เรามักจะทำงานทำอะไร มีสติกับงานการ แล้วก็มีสติเกี่ยวกับความคิดที่เกี่ยวข้องกับงานการ เช่น เราทำบัญชีเราก็ต้องมีสติอยู่กับการทำบัญชี เดี๋ยวบวกเลขผิดถูก ก็ต้องมีสติอยู่กับความคิดของการทำบัญชี เราจะดูบัญชีเฉยๆ แล้วไม่คิดไม่ได้ ถ้าไม่คิดมันก็ทำงานไม่ได้ นั่นคือสติทางโลก สติทางโลกมันให้มีสติอยู่กับความคิดที่จำเป็นจะต้องคิด ไม่ให้ใจลอย บางทีคิดบัญชีแล้ว ไปคิดถึงคนนั้นคนนี้ เดี๋ยวก็ทำผิดทำถูกได้ ก็เลยต้องมีสติให้อยู่กับการทำบัญชีเพียงอย่างเดียว แต่มันก็ยังต้องใช้ความคิด
         
ทางธรรมนี้เราต้องการให้มีสติอยู่กับการเคลื่อนไหวของร่างกาย โดยที่ไม่ให้คิดอะไร ให้อยู่กับคำบริกรรมพุทโธพุทโธ มันก็จะไปคิดเรื่องอื่นไม่ได้ ต่างกันตรงนั้น ต้องการหยุดความคิด สติทางธรรมนี้ต้องการหยุดความคิด เพราะความคิดนี้ ส่วนใหญ่มันเป็นโทษกับจิตใจ มันมักจะคิดไปในทางกิเลส ไปคิดแล้วทำให้จิตใจเครียด ฟุ้งซ่าน วุ่นวาย วิตกกังวล โกรธ อะไรต่างๆเหล่านี้ มันเกิดจากความคิดทั้งนั้น เราต้องมาฝึกหัดหยุดคิดมัน แล้วก็ให้มันคิดไปในทางที่ทำให้ใจไม่เครียดไม่ทุกข์ ก็คือคิดไปในทางไตรลักษณ์ ทุกอย่างในโลกนี้ไม่เที่ยง ทุกอย่างในโลกนี้ไม่ใช่ของเรา คิดอย่างนี้แล้วมันก็จะปล่อยวาง แล้วมันก็จะไม่เครียดกับอะไร

คำถามจากซูม 
วันที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๔

#พระจุลนายก พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี